นายกฯสั่งจัด Zoning (การจัดระเบียบพื้นที่) เกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ช่วยแก้ปัญหาชาติอย่างยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. พูดกล่าวในรายการ คืนความสุขให้คนในชาติ ว่า การจัดระเบียบพื้นที่ทางการเกษตรและอุตสาหกรรม ที่เรียกว่า Zoning นั้น ในที่ประชุม ครม. ผม(นายกฯ)ได้สั่งการให้กระทรวงที่เกี่ยวข้อง เช่นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ กระทรวงสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมมือกันในลักษณะของการบูรณาการ จะต้องแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนใน 2 เรื่อง คือ
(1) การปรับเปลี่ยนพื้นที่ทางการเกษตร พื้นที่ใด มีสภาพแวดล้อม ดิน น้ำ เหมาะสมกับพืชชนิดใด หน่วยงานของรัฐต้องเข้าไปช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ ให้ความรู้ และการฝึกอบรม อย่ารอให้เกิดปัญหา สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุดในขณะนี้ก็คือพื้นที่ ที่แห้งแล้งซ้ำซาก น้ำน้อย ดินก็ไม่ดี แต่ก็ยังต้องเพาะปลูกพื้นที่ทางการเกษตร เช่น ปลูกข้าว ทำนา ก็ไม่ได้ผลทุกปี ฉะนั้นต้องเร่งเข้าไปทำหน้าที่ตั้งแต่การจัดสรรพื้นที่เพาะปลูก ไปจนถึงการดูแลตลาดให้กับเกษตรกรด้วย กรณีที่เปลี่ยนเป็นพืชอย่างอื่น และเราก็ไม่ได้กำหนดให้ใครทั้งสิ้น เราเป็นห่วง นอกจากนั้นจะมีการพัฒนาคนหรือชาวนาให้มีอาชีพเสริมแล้ว ยังเป็นการพัฒนาพื้นที่ ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดและคุ้มค่า พื้นที่น้อยแต่ผลผลิตมาก อะไรทำนองนี้
(2) การแยกพื้นที่เพาะปลูกกับนิคมอุตสาหกรรม นั้นมีความจำเป็น เพราะบางพื้นที่นั้นไม่เหมาะสมที่จะไปตั้งโรงงานอุตสาหกรรม ก็เหมาะสมที่จะใช้เป็นพื้นที่ทางการเกษตรมากกว่า เพราะมีน้ำ มีดินดี ใกล้การขนส่งเหล่านี้ เพราะฉะนั้นก็ขัดแย้งกันมาตลอด วันนี้ต้องขอความกรุณา ขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน สำหรับในส่วนของภาคการผลิตพืชผลทางการเกษตร แหล่งน้ำกินน้ำใช้ สิ่งนี้จะต้องได้รับประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะมีการตั้งโรงงานอุตสาหกรรมใด ๆ จะต้องไม่กระทบต่อคุณภาพชีวิตภายในชุมชน ต้องดูแลชุมชนด้วย โครงการพัฒนาต่าง ๆ ในภายภาคหน้านั้น ต้องมองในภาพรวม ต้องพิจารณาเรื่องเส้นทางคมนาคมการขนส่งด้วย ทั้งหมดนี้อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ไม่ใช่ว่าเราจะไปเปลี่ยนอาชีพอะไรของท่าน เพียงแต่เราจะเข้าไปดูแลท่านให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น และไม่ได้เป็นการบังคับ แล้วแต่ความสมัครใจเพราะฉะนั้นต้องการให้ประชาชนที่เป็นภาคเกษตรกรรมนั้นทราบว่า พื้นที่ใดของประเทศไทยเหมาะสมจะปลูกพืชอะไร ทั้งนี้ก็แล้วแต่ท่าน
ส่วนเรื่องปัญหาการขาดแคลนน้ำ นั้น ผม(นายกฯ)ต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องเกษตรกรและขอทำความเข้าใจกับพี่น้องชาวนาในพื้นที่ภัยแล้งทุกท่าน ตามที่คาดการณ์ว่า ณ ปัจจุบันนี้จนถึงกลางปีหน้า เราจะมีปริมาณน้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ไม่เพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค การผลิตน้ำประปา การเกษตร และใช้สำหรับการผลักดันน้ำทะเล เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลนั้น จำเป็นต้องสร้างสมดุลในทุกมิติ แม้ว่าการระงับการส่งน้ำเพื่อการทำนาปรัง ก็มีความจำเป็น รัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหา มีมาตรการเสริมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นส่งเสริมการเพาะปลูกพืชชนิดอื่นที่ใช้น้ำน้อย การประมง และปศุสัตว์ รวมทั้งการจ้างแรงงานในการขุดลอกคูคลอง หรืออะไรก็ได้ที่จะเกิดผลประโยชน์กับประชาชน และการสร้างแหล่งน้ำใหม่ให้มากขึ้น ต้องใช้เวลา เพราะฉะนั้นปีหน้าอยากจะขอความร่วมมือตรงนี้ และอย่าเพิ่งอย่าตื่นตระหนก ปัญหาที่ผมเป็นห่วงก็คือน้ำประปาของเราจะขาด เพราะน้ำทะเลจะเข้ามา น้ำทะเลเข้ามาน้ำก็จะกร่อย การทำน้ำประปามีปัญหา ก็ขอให้ทุกท่านได้เข้าไปใช้บริการ ขอข้อมูล รับคำแนะนำ และความช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ ได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมได้ทุกแห่ง รวมไปถึงศูนย์อื่น ๆ ด้วย ทั้งการเกษตรก็ได้มีการจัดตั้งศูนย์มา 800 กว่าศูนย์แล้ว
cr aecnews
